คำพูดไม่โดนใจ ทำร้ายลูกน้อง

 ในช่วง 4-5 วันที่ผ่านมามีวาทะแห่งชาติที่เรารู้สึกได้ว่าไม่ควรพูดเช่นนั้นออกมา ถ้าหากว่าเรายังต้องการรักษาใจลูกน้องของเรา คำพูดนั้นมีอยู่ 2 ประโยค (หากมีอีกจะนำมาลงอีก)
1.พี่....... ยังอยากจะทำงานด้วยกันไหม?
        ในกรณีนี้ต้องใช้ในเวลาที่ลูกน้องทำผิดบ่อย ผิดซ้ำซาก ไม่ปรับปรุง ไม่ทำงาน ที่พฤติกรรมแย่มากๆ กรณีที่เค้าเป็นคนทำงานแล้วได้ยินคำพูดนี้ แทบอยากจะเขียนใบลาออกเดี๋ยวนั้นเลย ถ้าหากไม่ออกทนทำงานกันไปก็มีกำแพง อยู่ด้วยกันไม่ยืด
2. คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร?
          สุดยอดมากๆเท่า เทวดา ไม่เห็นหัวคน ใหญ่แค่ไหนสุดท้ายก็กินข้าวเหมือนกัน ยิ่งเราได้ยินจะไม่ค่อยอยากจะนับถือ ในกรณี ที่อายุมากกว่าเรา
   
 ก็ลองดูแล้วกัน ก่อนพูดเราเป็นนายมัน แต่เมื่อเราพูด คำพูดนั้นจะเป็นนายเราแทน

อะไรที่ไม่ทำให้เราตาย จะทำให้เราเติบโต

            ได้มีโอกาสได้ฟังคลิปของคุณบอย วิสูตร แสงอรุณเลิศ ในเรื่องของการหางานที่เรารัก รู้สึกสะดุดกับคำพูดนี้ที่ว่า " อะไรที่ไม่ทำให้เราตาย จะทำให้เราเติบโต แต่ถ้าเราไม่ยอมโต เรากำลังจะตายลงอย่างช้าๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว" มันใช่เลย
            ในคลิปคุณบอยกล่าวไว้ว่า 3 วิธีในการหางานที่รักคือ
1.ลองไปเรียนในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะเรียนมาก่อน
2.ลองคบเพื่อนใหม่ ต่างสายงาน
3.ลองทำในสิ่งที่เราไม่เคยคิดจะทำ
            และไม่ต้องสนใจนะว่าที่ทำมันจะสำเร็จ หรือมันจะเสียเวลาหรือเปล่า อย่างไรมันคุ้มค่าในการลองทำ แล้วมาย้อนกลับมาที่ชีวิตเรา มันใช่เลย ทั้ง 3 นี้ผ่านมาหมด ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เรา สิ่งที่มีความสุข มันคืออะไร ทำให้เรารู้จักตัวตน ของเราจริงๆ
            หวังว่าทุกคนจะได้เจองานที่รักจริงๆ

มีเป้าหมาย เวลาเร็ว

             ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณบัณฑิต อึ้งรังสี ที่สร้างแรงบันดาลใจ แบบอย่างความสำเร็จ ทำให้มีเป้าหมาย วสามารถโฟกัสกับชีวิตตัวเองมากขึ้น
             หลังจากนั้นเวลาที่ผ่านไป ไม่เหมือนเดิม อีกต่อไป การทำงานโคตรมีความสุข เวลาแม่ง ผ่านไปไวมากๆ ตื่นขึ้นมาตอนเช้า อยากไปทำงาน ไม่อยากจะหยุด อยากพัฒนาตัวเองให้เก่งทั้งความรู้การงานอารมณ์ ความคิด สายสัมพันธ์ นอกจากนี้ work life balance ดีกว่าแต่ก่อนมาก ได้ทำงาน ออกกำลัง ร่างกายฟิต ดูแลครอบครัว ดีในทุกๆด้าน เพราะรู้จักผู้ชายคนนี้ บัณฑิต อึ้งรังสี ขอขอบคุณจริงๆ

style ใคร style มัน แค่รู้ว่ามันใช่

                เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง ว่าถ้าหากว่าอยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับ ภาษาอังกฤษ การลงทุน เงินทำงาน ฯลฯ  เราต้องเอารางวัลมาล่อตัวเองก่อน
                ส่วนตัวเป็นคนชอบอ่านนิยายมาก วันนั้นตอนเช้า อ่านไปประมาณ 3 ชม. เพียงพอแล้ว หลังจากนี้นซาแก่ใจ กินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟังไฟล์ของ Ted talk ไปทั้งหมด 4 files อ่านหนังสือของ Money Coach จบไป 2 เล่ม ดูหนังจบไป 2 เรื่อง รู้สึกเลยว่าใช้เวลาคุ้มค่ามากๆ
               เราเป็นคนที่ทำสวนทาง เพราะที่ผ่านมาเคยอ่านหนังสือเจอว่าต้องเอารางวัล มาสุดท้าย แต่เราเอารางวัลมาไว้หน้า เหมือนกลับหัว กลับหาง แต่ใครจะสน แค่ผลลัพธ์ มันได้ก็เพียงพอแล้ว
               และที่ได้เรียนรู้อีกอย่างคือ ถ้าเป็นคนที่มี commitment ไม่ว่ารางวัลจะอยู่หน้าหรือสุดท้าย เค้าก็จะทำตามเป้าหมายที่เค้าวางไว้อยู่ดี

ถ้าคิดว่าได้ มันก็ได้

       การทำงานต่างจังหวัด หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จำเป็นต้องเช่าห้องพัก โดยห้องพักที่เราเช่าอยู่ในปัจจุบันนี้ อยู่มานานประมาณ 10 ปี เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาทางเจ้าของหอพักจะทำการขึ้นราคาค่าเช่า จากเดิมเพิ่มเป็น 500 บาท ณ จุดที่รับรู้ บอกตัวเองทันทีว่าต้องหาหอพักที่ค่าเช่าเป็นไปตาม งบประมาณที่เราจะเสีย ถ้าหากมากกว่านี้ ต้องทำทุกทาง ให้ไม่เกิน
       ผลจากความพยายามและความช่วยเหลือจาก พี่ที่สนิท สุดท้ายได้ที่พักในราคาที่อยู่ในงบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เรารู้ว่าถ้าใครก็ตามคิดถึงหนทาง และทำมันที่เป็นไปได้ มันก็ได้ 100%
เดือนหน้าก็ทำการย้ายที่อยู่ใหม่

เราในอนาคตเป็นอย่างไร ขึ้นกับเราในปัจจุบัน

           วันนี้ได้มีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น ในกรณีเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนที่มันค่อยจะโสภาเท่าไร หันกลับมานั่งคิดกับตัวเอง กรณีนี้เราจะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อที่เราจะไม่เป็นคนนั้น
           จึงได้คิดว่าถ้าเราในอนาคตอยากจะเป็นอย่างไร เราสามารถออกแบบมาได้ในวันนี้ ตรงจุดนี้ ในเวลานี้ เราในอนาคตอยากจะเป็นคนที่คนอื่น กล่าวถึงในแง่ของการทำงานเก่ง มนุษย์สัมพันธ์ที่ดี เป็นคนใจดี เป็นต้น
             ถ้าเป็นเช่นนี้ ในวันนี้เราก็ต้องตังใจทำงาน หมั่นหาความรู้ในงาน สร้างสายสัมพันธ์ที่ดี แล้วอนาคตของเราก็เป็นอย่างที่เราต้องการ

ทุกปัญหา มีทางออกเสมอ

            ในที่สุดเรื่องที่เรากังวล สามารถผ่านไปได้ด้วยดี แต่อย่างไรก็ตามยังมีขั้นตอนที่เราจำเป็นต้องตาม เพื่อทำให้ทุกอย่างมันถูกต้องเรียบร้อย
            สิ่งที่เราได้เรียนรู้ในวันสองวันที่ผ่านคือ ในทุกปัญหา ย่อมมีทางออกเสมอ ขอเพียงเราต้องมีสติ สมาธิ อย่าเพิ่งรน คิดมาก ไม่เช่นนั้นเราจะไม่สามารถออกจากปัญหาได้ เหมือนโค้ชที่จำเป็นต้องขึ้นไปดูเกมการเล่นของทีม เพื่อมองเห็นภาพใหญ่ ตัวเราเองก็เช่นกัน ต้องออกจากปัญหาก่อน แล้วเราจะมองเห็นทางออก ทางแก้ไข
             สติ เท่านั้นที่ทำให้เราผ่านในทุกสถานการณ์ไปได้

ล้างห้องน้ำ ล้างใจ

        เคยไหมที่เรามีอะไรที่ต้องคิด ต้องจัดการ และหลายครั้งมันเหมือนว่าสมองมันจะคิดวนเวียนหาทางออกไม่ได้ ในวันนี้ถ้าหากว่าใครที่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้
          เรามีวิธีในการแก้ไขและได้ลองทำแล้วมันได้ผล ในที่นี้คือการล้างห้องน้ำที่เราใช้กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ในระหว่างที่ล้างห้องน้ำ จิตใจของเราจะจดจ่อกับการทำงานตรงหน้า  เราจะมีสมาธิ ผลที่เห็นชัดเจนคือ ห้องน้ำของเราสะอาด
          อย่างที่สองคือ จิตใจมีพลังของสมาธิ ความสงบ ความคิดของเราจะมีพลัง ในการหาคำตอบของปัญหา อย่างที่พระท่านว่า สติ สมาธิมาปัญญาเกิด
          ล้างห้องน้ำเสร็จแล้วสบายใจ เหมือนการล้างใจ ที่ขุ่นมัวให้มีอารมณ์ที่สงบ peace of mind ทำให้ปัญญาเฉียบคม ในการดำเนินชีวิตให้มีความสุข ในทุกอณู ของลมหายใจเลยทีเดียว
          ถ้าวันไหนที่อารมณ์ขุ่นมัว ล้างห้องน้ำ ช่วยล้างใจได้จริงๆ

สุดมือสอย ก็ปล่อยมันไป

           เรื่องราวในวันนี้ได้มีการพยายามทำบางสิ่ง บางอย่างแลับทสรุปจะออกมาวันจันทร์หน้า ว่าจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนี้คือประสบการณืในการแก้ปัญหา การจัดการกับอารมณ์ มองว่าจะ ถึงจะอารมณ์เสียไป ก็ไม่ทำอะไรให้ดีขึ้น สู้ปล่อยวางไม่ได้
      ตอนนี้อารมณ์เย็นกว่าเดิมแล้ว เลยนึกถึงประโยคที่ว่า " สุดมือสอย ก็ปล่อยมันไป" เพราะเราทำเต็มที่แล้ว ปล่อยวางได้ ไม่เสียใจแน่นอนว่าเมื่อเวลาผ่านไป จะไม่ต้องมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า "ตอนนั้นน่าจะทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ " พอกันที ไม่เอาแล้ว
       เต็มที่แล้ว สุดมือแล้ว ไม่ได้ก็ต้องปล่อยมันไป

ปล.แต่อย่างไรก็มีแผนสำรองเอาไว้แล้ว ว่าจะทำมันให้สำเร็จให้ได้

เมื่อฉันเปลี่ยนหัวหน้างาน (อีกแล้ว)

                  จากการที่ได้ทำงานในองค์กรเดิมมา 9 ปี ผ่านหัวหน้างานมาทั้งหมด 5 คน ซึ่งแต่ละคนก็มีสไตล์การทำงานที่แตกต่างกัน ถามว่ามีผลกระทบกับตัวเราหรือไม่ บอกตรงนี้เลยว่า ถ้าหากว่าเราเป็นคนที่ทำงานจริงๆ ในมุมมองของเรานั้น หัวหน้าแบบไหน เราก้เอาอยู่ หมายความว่าเราต้องทำงาน หน้าที่ที่เรารับผิดชอบให้ดีที่สุด ในจุดที่ทำ แต่ก็ยอมรับว่าต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับการทำงานของหัวหน้างานใหม่

                บอกเลย ไม่ว่าหัวหน้างานแบบไหน  ก็เต็มที่ไม่ต่างกัน เพราะเราคิดว่าถ้าทำเต็มที่ ตามศักยภาพ คนที่ได้ก็คือตัวเราเอง

เปลี่ยนที่ตัวเรา อย่าไปเปลี่ยนไม้

                หลังจากที่เริ่มเล่นเทนนิสมานานกว่า 2 เดือน และแล้วก็ด้วยความมีน้ำใจของพี่เล็ก ที่กรุณาให้ยืมไม้เทนนิส โดยที่เราไม่ต้องออกเงินเอง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงแรกที่ตี คือ เจ็บแขน  ต้องออกแรงมาก เราก็มานั่งคิดกับตัวเอง ว่าจะทำอย่างไร จะเลิกไม่เล่นหรือว่าจะซื้อไม้ใหม่ ทั้ง 2 ทางเลือกนี้ไม่ใช่ทางเลือกที่เราต้องการเลย เพราะฉะนั้นต้องปรับตัวเราให้เข้ากับไม้ โชคดีมากๆที่ได้พี่ที่สนิทแนะนำว่าในการตีลูก ต้องดูลูกมากระทบกับแร็คเก็ตด้วย ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อน หลังจากที่ทำตามคำแนะนำนั้น ทำให้การตีไม้อันนี้ดีอย่างเห็นได้ชัด

                ผลจากเมื่อวานที่เล่นน็อคบอร์ด และเล่นเซตกับเพื่อน การตีดีกว่าเดิม สามารถตีโต้ได้ จังหวะในการตีโต้ลูกได้ดี เปลี่ยนที่ตัวเรา ปรับที่ตัวเรา ให้เข้ากับไม้  เป็นอะไรที่เราทำได้ง่ายที่สุด

Slow life

                  ช่วงนี้คำนี้เหมือนว่าจะอยู่ในกระแสพอสมควร พอดีได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือก็เลยได้มาแบ่งปันว่าการที่อยากจะเป็น slow life นั้นต้องมีอะไรบ้าง ซึ่งมีทั้งหมด 9 ด้วยกัน เรามาลองดูกันว่าเรามีทั้งหมดกี่ข้อ

1.       ต้องรู้จักโฟกัส ทำทีละอย่าง จัดลำดับความสำคัญ เรื่องเดียว เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน

2.       มีสติอยู่กับปัจจุบัน  ไม่ฟุ้งซ่านจนทำร้ายตัวเองและผู้อื่น

3.       Low tech. ซะบ้างปิดเฟส ไลน์ ได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง คุยกับตัวเอง

4.       ใส่ใจเพื่อนฝูง ครอบครัว ด้วยควมจริงใจ

5.       เปลี่ยนมาชื่นชมความงามตามธรรมชาติ ออกไปหากิจกรรมกลางแจ้ง

6.       ทานอาหารให้ช้าลง รับรู้สัมผัสรสอาหาร

7.       ขับรถช้าลง เพื่อเป็นการผ่อนคลาย

8.       มีความสุขง่ายๆและรื่นรมย์ในชีวิตที่ได้ประสบพบเจอ

9.       ขจัดความเครียด ด้วยการสูดลมหายใจเข้า-ออกลึกๆ 

จะว่าไปแล้ว เราก็ตรงหลายข้อนะเนี่ย

ในวันที่ฝนตก

ช่วงนี้ภาคใต้ ตามพยากรณ์อากาศพบว่าจะมีฝนตกทั้งตลอดวัน เป็นเรื่องที่ดีที่ฝนตก เพราะว่าฝนขาดช่วงไปนาน ตกมาช่วงนี้ ก็ดีต่อเกษตรที่จะใส่ปุ๋ย ต่ถ้าตกในเมืองเห็นท่าแล้วน่าจะลำบาก ไม่ต้องให้ถึงกรุงเทพ หรอกแค่ในตัวเมืองในช่วงเวลาไปส่งลูกโรงเรียนตอนเช้า หรือไปรับลูกตอนเย็น ถ้าฝนตก ติดไม่ต้องพูดถึงกันเลยทีเดียว นึกว่าอยู่กรุงเทพ รถมาก ถนนเท่าไร มันไม่สัมพันธ์ ก็เป็นอย่างนี้ล่ะ เป็นธรรมดา

                ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบฝนเท่าไร เพราะผ้าที่ตากไว้จะไม่แห้ง จะเปียกชื้น หมอน ผ้าห่มก็ไม่โดนแดด ทำให้ช่วงนี้ จำเป็นต้องดูแลสุขภาพให้ดีๆ สภาวะอากาศเอื้อให้จะเป็นหวัดกันง่ายดาย และมีไวรัสจากเกาหลี ที่มาแรงยิ่งกว่า ซีรีย์เกากลีอีก  ไม่มีใครอยากจะเป็นถ้าเลือกได้

                สุดท้าย อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย อย่าลืมดูแลสุขภาพนะค่ะ

มันไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าเราคิดจะทำ

ช่วง 2 วันที่ผ่านมาได้มีการเรียนรู้การทำธุรกิจผ่านทาง online ยอมรับเลยว่ามีขั้นตอนในการเริ่มยุ่งยากหลายอย่าง แต่หลังจากที่ปรับแนวคิดภายในเสี้ยววินาทีเดียว คิดว่ามันต้องลอง เพราะเราเสียเงินไปแล้ว เราต้องเรียนรู้ และทำออกมาให้คุ้มกับเวลาและทรัพย์สินที่เราลงทุนไป พอคิดได้เช่นนั้นทำให้เราได้ไปต่อ สุดท้ายขั้นตอนต่างๆก็สามารถทำได้และผ่านำไปได้ด้วยดีมากๆ

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เรารู้ว่าถ้าไม่ลองก็คงไม่รู้ เราอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ ว่าเราจะทำไม่ได้ ถ้าเราคิดจะทำ อะไรเราก็ทำมันได้ 

นายจ้าง จ้างเรามาแก้ปัญหา

เมื่อ 2 วันที่ผ่านมามีปัญหาเครื่องจักรที่อยู่ภายใต้การดูแลของเรามีปัญหา ยอมรับเลยค่อนข้างเหนื่อยมากๆ แต่พอเรามราคิดว่า เราเป็นลูกจ้าง เค้าจ้างมาแก้ปัญหาก็ทำให้เต็มที่ ท้ายสุดก็สามารถผ่านสถานการณ์ไปได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ดีเช่นเดิมก็ตาม

                เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้เรียนรู้ว่าการไม่ใช้อารมณ์ การมีสติในการมองปัญหา ทำให้เราสามารถมองเห็นถึงจุดที่เรามองไม่เห็นได้ และนั่นถึงสาเหตุของปัญหาที่เราต้องหาทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำในอนาคต

เมื่อไม่มีอารมณ์ทำงาน

วันนี้ตื่นขึ้นมาไม่ค่อยสดชื่นเท่าไร แต่ก็จำเป็นต้องตื่นขึ้นมาทำภารกิจต่างๆเพราะมันเป็นอาชีพของเรา ประกอบกับหยุดหลายวันทำให้เกิดขี้เกียจตัวเป็นขน พอได้มาที่ทำงานเจอบททดสอบจากลูกน้องที่ไม่ค่อยรู้เรื่องราว แต่สุดท้ายด้วยความใจเย็น การยิ้มทำให้สถานการณืผ่านไปโดยละม่อม  Mission Completed เราก็เป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ได้ดีเหมือนกันแฮะ

                เค้าถึงได้เรียกว่าสถานการณ์ภายนอกเป็นเช่นไร ขึ้นกับสถานการณ์ภายใน โลกภายนอกเปลี่ยนตามโลกภายใน จริงแท้

จริงๆ 

เมื่อฉันเป็นครูสอนพิเศษ

                   เมื่อวานได้มีการติดต่อจากเพื่อนของเพื่อนให้มาช่วยติวหนังสือวิชา ฟิสิกส์แบบตัวต่อตัว น้องคนนี้เป็นเด็กผู้หญิงเรียนอยู่ชั้นม.2 เราก็ถามว่าทำไมเรียนเร็วจัง น้องบอกว่าเพื่อนเค้าเรียนกันหมดแล้วก้อยากจะเรียนเอาพื้นเพื่อม.4 จะได้รู้เรื่องเลย น้องเป็นเด็กน้อง king เกรดได้ 3.56 เป็นเรียนดี นอกจากนั้นยังเป็นกิจกรรมทั้งกีฬา เต้น cover dance และวิชาการแข่งขัน sci. show

                เด็กสมัยนี้ยอมรับเลยว่าการแข่งขันทางด้านการเรียนสูงมากๆ พ่อแม่ และตัวเด็กพยายามหาที่เรียนให้ได้เก่ง ให้เท่าทันเพื่อน ส่วนตัวเราเองนั้นก็ต้องกลับไปเคาะสนิมเรียนฟิสิกส์ผ่านมา 10 ปีแล้ว ต้องกลับไปรื้อฟื้นใหม่ และได้ทำในสิ่งที่ออกจาก comfort zone ยาวไป จัดไป.......

แอโรบิคและเทนนิส

วันนี้เป็นการออกกำลังที่ได้สารแห่งความสุข พอดีรู้สึกได้ว่าช่วงนี้จะมีสิ่งลบๆเข้ามาในหัว เลยต้องทำการล้างสมอง เปิดกะโหลก และการออกกำลังกายเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีมากๆ เต้นแอโรบิค 1 ชม.ต่อด้วยเทนนิส อีก  1 ชม.ระหว่างที่เล่นเวลา 18.00-20.00 น.เลยทีเดียว

                หลังจากที่ออกสมองโล่งมากๆค่อยยังชั่วหน่อย เรามาออกกำลังกายกำจัดพลังลบกันดีกว่า.......

การปฎิเสธเมื่อมีคนมายืมเงินแบบมองหน้ากันติด

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ที่โดนเพื่อนยืมเงิน หรือจะเป็นการทำธุรกิจที่เป็นเครดิต ก็มีหลายรายก็กลายเป็นหนี้สูญไปหลายอยู่ จนถึงปัจจุบันที่มีการเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเอง ในการปฎิเสธคนที่มายืมเงิน ถึงแม้ว่าเค้าจะให้ดอกเบี้ยเราก็ตาม โดยเราจะไม่บอกว่าว่า “ไม่มีเงิน” เพราะถ้าบอกไปเช่นนั้นเราจะไม่มีจริงๆ แต่เราจะบอกไปว่าเงินของเราอยู่ในตลาดหุ้น กองทุนรวมแทน มีเงินสดอยู่ติดตัวแค่ 10,000 กว่าบาทเท่านั้น ทางคนยืมก็จะเข้าใจ และไม่พยายามในการยืมอีกเลย มันใช้ได้ผลจริงๆ   

เมื่อฉันแข็งแรงแล้ว

เมื่อวานหลังจากที่พยายามดูแลตัวเองสุดๆ พยายามไม่กินยาพารา หลังจากที่กินไปแล้ว 1 เม็ด เพราะรู้อยู่แล้วว่า การกินยาพารามากไปมีผลกับการทำงานของตับ เราบริจาคร่างกายกับสภากาชาด ก็พยายามรักษาสภาพร่างกายให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พอมาตอนเช้า อาการต่างๆดีขึ้นมีอาการปวดหัวนิดหน่อย แต่ดีกว่าเมื่อวาน ความกระฉับกระเฉงกลับมา รู้สึกดีกว่าเดิมเยอะมากๆ เค้าถึงได้บอกว่า “การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ” เป็นเช่นนั้นจริงๆ 

เมื่อฉันไม่สบาย

สาเหตุมาจากการที่โดนลมทะเลและการนอนดึกประมาณ 02.30น. จนทำให้ตอนเช้าเกิดอาการมึนหัว ท้องไส้ปั่นป่วน ปากแห้ง เพราะภายในร่างกายร้อน ขนาดกินน้ำอย่างมากแล้ว ปากก็ยังคงลอกอยู่ ต้องอาสัยตัวช่วยที่ไม่ใช่ยา คือน้ำดอกเก็กฮวย

                นอกจากนี้ยังมีเสมหะที่เป็นสีเขียวอีกต่างหากคาดว่าจะติดเชื้อ ยังโชคดีนะที่ประจำเดือนไม่ได้มาด้วย ไม่เช่นนั้นอาการอาจจะแย่มากกว่านี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รู้ว่า การโดนลมทะเลและการนอนดึกทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอจนไม่สบายได้  เพราะทุกอย่างเป็นเหตุและผลถ้าเราทำเหตุให้ดี ผลที่ตามมาก็ดีแน่นอน ถ้าเหตุไม่ดีผลที่ตามมาก็แย่ อย่างที่เห็น นานนะที่จะไม่สบาย แต่ก็อีกล่ะ ทุกคนต้องเจอเหมือนกัน เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นของธรรมดา  

play tennis watch tennis take tennis

ช่วงนี้มีกิจกรรมที่เริ่มทำตอนอายุ 30 คือการเล่นเทนนิส แรงบันดาลใจเกิดจากการที่ได้มีโอกาสได้ดูการ์ตูน The Prince of Tennis ของญี่ปุ่น บอกตามตรงโตขนาดนี้แล้วทำไมดูการ์ตูน ในมุมมองก็ไม่ต่างอะไรกํบการดูหนังเลย ถ้าหากใครได้มีโอกาสดู หรือเป็นแฟนพันธุ์แท้ การ์ตูนเรื่องดังกล่าวก็จะพบว่า (ในมุมมองของเรา)

1.       การ์ตูนสอนให้มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท ในการฝึกซ้อม ไม่ใช่อยู่เฉยๆจะเก่งขึ้นมาเป็นนักกีฬาของโรงเรียนได้

2.       ความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในทีม ช่วยเหลือกัน

3.       สายสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียน ในสนามเป็นคู่แข่งแต่นอกเกม เป็นเพื่อนกัน

            พอได้ดูการ์ตูนก็มาย้อนดูตัวทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ในการทำสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดความอนทน ต่อสู้กับจิตใจของเราเอง และหลังจากที่ได้มีการจับไม้และตีลูกกับกำแพง ทำให้เรียนรู้ว่า สมาธิ เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ถ้าหากว่าเรากะจังหวะในการตีลูกพลาดนิดเดียว เราจะ fail ทันที เผื่ใครสนใจ อยากจะเล่นกีฬา เทนนิสก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ร่างกายแข็งแรง จิตใจเบิกบาน และเป็นการฝึกสมาธิ

                กลับมาที่การ์ตูนเรื่องนี้พอได้ดูแล้ว อะไรที่มันท้อแท้ก็รู้สึกมีพลังขึ้นมาได้ ปลุกใจ ใส่ฝันขึ้นมาได้อีก อยากจะให้ลองหา หนัง การ์ตูน หนังสือ อะไรก็ได้ ที่เป็น My favorite  for your inspiration. ลองดูนะ ช่วยได้จริงๆ

ทำพี่หลวง

พอดีมีโอกาสได้มาทำงานภาคใต้ ก็ได้เรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาท้องถิ่น คำว่า ทำพี่หลวง ภาษาใต้ หมายความว่า ทำเป็นเก๋า ทำเป็นเก่ง ซึ่งได้เจอในที่ทำงาน แต่ก็ไม่อยากจะบอกเลยว่า การที่มีการเคารพซึ่งกันและกันของการทำงานกับคนหมู่มาก  ทำพี่หลวงไม่ช่วยอะไร แถมทำให้บรรยากาศในการทำงานไม่ดีด้วย สังคม สายสัมพันธ์ก็ไม่ได้

                เพราะฉะนั้นอย่าทำพี่หลวง ไม่ช่วยอะไรหรอก 

วันไหนก็ไม่ต่างกัน...

ตอนนี้อยู่ในสถานะการเป็นเจ้าหนี้ ที่ลูกหนี้เป็นเจ้าของกิจการ โดยทั่วไปแล้วถ้าเป็นพนักงานกินเงินเดือน เงินเดือนออกปลายเดือนแน่นอน ก็สามารถมีเงินไปใช้จ่ายได้ แต่ในกรณีของเจ้าของกิจการที่เป็นเงินหมุนเข้า-ออก และถ้าหากว่าไม่มีการบริหารจัดการที่ดี รับรองได้เลยว่า หนี้ก็ไม่หมด เงินก็ไม่ได้คืน วันไหนๆก็ไม่ต่างกันจริงๆ....

ไม่ใช่แค่หาเงินอย่างเดียว

                 ในปัจจุบันนี้ยอมรับว่าการมีเงิน นั้นสำคัญ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องวุ่น วิ่ง หาเงินอย่างเดียว สุขภาพ ครอบครัว เพื่อนฝูงก็สำคัญ ไม่แพ้กัน วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ส่วนตัว เป็นคนชอบทำงานหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคุณครูสอนพิเศษ พิธีกร เป็นพนักงานประจำ เป็นนักธุรกิจเครือข่าย แต่เป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยขาดการออกกำลังกายเลย จะจัดสรรเวลา ในแต่ละวันได้ 1 ชม.ต้องไปออกกำลัง ไม่ว่าจะเป็นการเต้นแอโรบิค ตีเทนนิส วิ่ง สามารถออกกำลังกายได้ 3-5 วันต่ออาทิตย์เลยทีเดียว

                บางคนอ้างว่าไม่มีเวลา เราก็แค่อยากจะบอกว่าเวลาทุกคนมีเท่ากัน แต่ว่าขึ้นอยู่กับว่าจะจัดสรรเวลาหรือเปล่าเท่านั้นเอง  ออกกำลังกายกันเถอะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเราทุกคน 

ถ้าเราไม่กลัวผิดพลาด

              ตัวเราในอดีตในการที่ต้องทำไร เราจะคิดเสมอว่า เออ มันจะผิดพลาด จะทำได้ไหม พอเราคิดอย่างนี้ มันทำให้เราไม่เคยทำไร จริงๆจังซักกะที พอมาได้อ่านบทความ อ่านหนังสือ เค้าก็บอกนะ อย่ากลัวความผิดพลาด เพราะมันเป็นบันได สู่ความสำเร็จ ตอนนั้นไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว การที่เราต้องมีการเรียนรู้การขายของทาง online ก็ไม่ได้เป็นมาก่อน ลงทุนในหุ้นก็ไม่เป็นมาก่อน การเขียน blog ต่างๆ ( 3 สิ่งเป็นสิ่งใหม่ทั้งหมดที่เพิ่งมาจับตอนอายุ 30 อย่างฮ่า) พอหลังจากที่ได้ทำจริง ศึกษาจริง คำว่าความผิดพลาด ไม่ได้นึกถึงมันเลย มันสนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จึงแม้ว่าจะทำออกมาดีบ้างไม่มีบ้าง ของอย่างนี้ต้องใช้เวลา  

                ตอนนี้รู้แล้ว ว่าความผิดพลาดเป็นหนทางไปสู่ความสำเร็จ และถ้าเราทำเต็มที่เรียนรู้สุด ทำให้สนุกในการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้ และสามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเองด้วย ตบท้ายคำกลอน ” หากวันนี้เราทำสิ่งเดิมๆ เราก็ได้ผลลัพธ์เดิม แต่ถ้าวันนี้เราต้องการผลลัพธ์ใหม่ๆ ต้องทำสิ่งที่แตกต่าง “ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ต้องการสำเร็จ 

รู้จัก อาไซอิเบอร์รี่ (Aci Berry)

Açaí Berry เป็น ผลของพืชตระกูลปาล์มที่มีถิ่นกำเนิดในดินแดนแถบลุ่มน้ำอเมซอนประเทศบลาซิล
โดยอาไซอีเบอร์รี่เป็น พืชทีเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และมีประวัติการใช้ในฐานะอาหารที่มีมีส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพของชนพื้น เมืองในแถบลุ่ม น้ำอเมซอนมาอย่างยาวนาน แต่สิ่งที่ทำให้ผลไม้ชนิดนี้แตกต่างจากเบอร์รี่ทั่วๆไป นั่นคือในผลอาไซอีเบอร์รี่ อุดมไปด้วยกรด อะมิโน กรดไขมัน วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก และ ผลลัพท์จากการใช้งานในฐานะผลไม้ระดับซุปเปอร์ฟรุ๊ตที่ปรากฏให้เห็นเด่นชัด ทำให้อาไซอีเบอร์รี่ถูกจัดให้อยู่ในเมนูสุขภาพ ของนักโภชนบำบัดชั้นนำของโลก งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารอาหารเพื่อดูแลสุขภาพ เปิดเผยให้เห็นความลับและคุณสมบัติที่น่ามหัศจรรย์ของอาไซอีเบอร์รี่อย่าง ต่อเนื่อง อาทิเช่น

• มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูง และมีส่วนช่วยต่อต้านโรคมะเร็ง
• มีส่วนช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย
• ให้พลังงาน
• อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่นโปรตีนและกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว
• อุดมไปด้วยวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย
• มีส่วนประกอบของเส้นใยอาหารสูง
• มีส่วนช่วยในเรื่องระบบการย่อยอาหาร และการควบคุมน้ำหนัก
• มีส่วนช่วยในกระบวนการขับสารพิษออกจากร่างกาย